‘บิ๊กโจ๊ก’ ต้องการพบ ชัชชาติ แวะคุยหลากความร่วมแรงร่วมมือ ผู้ว่าฯ ตื่นตระหนก ‘รถตุ๊กๆหลอก นทท.’

‘บิ๊กโจ๊ก’ ต้องการพบ ชัชชาติ แวะคุยหลากความร่วมแรงร่วมใจ ผู้ว่าฯ ไม่ค่อยสบายใจ ‘รถตุ๊กๆหลอกนักเดินทาง’
เมื่อเวลา 12.55 น. วันที่ 26 เดือนกรกฎาคม ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เสาชิงช้า นายชัชชาติ สิทธิจำพวก ผู้ว่าราชการจังหวัดจ.กรุงเทพฯ (ผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร) พร้อมกับ พล.ตำบลท.สุรเชษฐ์ หักระราน หรือ บิ๊กโจ๊ก ผู้ช่วยผู้บังคับบัญชาตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผู้บังคับบัญชาตำรวจ) รวมทั้งแผนก แถลงความร่วมแรงร่วมมือระหว่าง กรุงเทพมหานคร รวมทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตำรวจ)
โดยนายชัชชาติ กล่าวว่า ท่าน พล.ตำบลท.สุรเชษฐ์ ขอความปรานีต้องการมาพบเพื่อความร่วมแรงร่วมใจกัน ซึ่ง กรุงเทพมหานครได้ดำเนินการร่วมมือกับตำรวจมาตลอด
นายชัชชาติบอกว่า เป็นหลักการของ ผู้บังคับบัญชาตำรวจ ที่อยากได้ติดต่อประสานงานระหว่าง กรุงเทพมหานครกับ ตำรวจ ให้เข้มข้นขึ้น เนื่องจาก กรุงเทพมหานครดำเนินการผู้เดียวไม่เป็นผลสำเร็จ ตำรวจมีหน้าที่หน้าที่ดูแลความปลอดภัยโดยตรง โดยมีการปรึกษาหารือและขอคำแนะนำกัน 2 เรื่อง เรื่องแรกเป็น การขยายการใช้แอพพลิเคชั่นทราฟฟี้ฟองมองว์ (Traffy Fondue) ซึ่งก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาราษฎรจ.กรุงเทพฯ ได้แจ้งเรื่องร้องทุกข์ผ่านแอพพ์มากมายว่า 100,000 เรื่อง ซึ่งมีเรื่องมีราวที่เกี่ยวกับตำรวจ 8,000 เรื่อง โดยทาง กรุงเทพมหานครได้เชื่อมระบบกับโรงพักนครบาล (สถานีตำรวจ) 88 ที่แล้ว ทำให้แต่ละ สถานีตำรวจได้รับเรื่องร้องทุกข์โดยตรง ซึ่งทางตำรวจให้การตอบรับได้อย่างเร็ว จำต้องขอขอบพระคุณที่ตำรวจร่วมมืออย่างดีเยี่ยม
อีกมิติหนึ่งทาง ผู้บังคับบัญชาตำรวจ ต้องการนำทราฟฟี้ฟองมองว์มาขยายผล โดยผ่านโรงพักทั้งประเทศไทย กว่า 1,480 ที่ เพื่อพสกนิกรสามารถบอกเหตุได้ ซึ่งบางทีอาจจะไปรวมกับหน่วยงานดูแลส่วนท้องถิ่น (อปท.) ได้ด้วย ทำให้การใช้เทคโนโลยีได้เร็ว ได้แก่การใช้ทรัพยากรอย่างมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น

“เป็นมิติใหม่ของระบบราชการ ปัจจุบันนี้มีหลายหน่วยงานต้องการมาคุย ท่านนายกเทศมนตรีเทศบาลนครจังหวัดเชียงใหม่จะนัดหมายคุย เพื่อนำทราฟฟี้ฟองมองว์ไปใช้ เป็นนิมิตรหมายที่ดีที่มีการเปลี่ยนใน 6 อาทิตย์ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา” นายชัชชาติกล่าว
นายชัชชาติกล่าวต่อว่าต่อขาน เรื่องในที่สุด สมาร์ทเซฟตี้โซน (Smart Safety Zone) ซึ่ง กรุงเทพมหานครได้ร่วมมือกับ ตำรวจ ตั้งแต่ยุคสมัยก่อนผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร พล.ตำบลอำเภออัศวิน ขวัญเมือง ในโครงงานสมาร์ทเซฟตี้โซน 4.0 ปริมาณ 12 พื้นที่ ที่เป็นจุดที่มีการเสี่ยง มีมวลชนหนาแน่น มีนักท่องเที่ยวหนาแน่น ซึ่งการจุดโฟกัสในแต่ละพื้นที่ทำให้มีการทุ่มเททรัพยากร เสมือนแนวทางการทำแซนด์บ็อกซ์ โดยเดี๋ยวนี้มีกล้องถ่ายรูปที่ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) สามารถพินิจพิจารณาอัตลักษณ์บุคคลที่มีการเสี่ยงได้ รวมทั้งเทคโนโลยีการข้ามทางข้ามที่ปลอดภัย กับนำชุมชนมาเป็นแถวร่วมอาสาสมัครเฝ้าระวังอาชญากรรม พอเพียงทำพื้นที่เป็นหลักที่ต้นแบบแล้ว ก็จะขยายไปพื้นที่อื่นต่อได้ เป็นนิมิตรหมายที่ดีที่ กรุงเทพมหานคร รวมทั้ง ตำรวจ ร่วมมือกันเพื่อใช้ทรัพยากรอย่างมีคุณภาพ
ซึ่งมีการมอบหมายให้ พล.ตำบลอำเภออดิศร์ สวยจิตสุขศรี ที่ปรึกษาของผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร ไปศึกษาเรียนรู้ว่า สมาร์ทเซฟตี้โซน ควรมีเนื้อหาอะไรบ้าง กรุงเทพมหานครจะเกื้อหนุนด้านไหน ซึ่งจะมองเรื่องคนไม่มีบ้าน ความเลอะเทอะ ส้วมสาธารณะ จะต้องมีเสาแจ้งเตือนเรื่องด่วน SOS การเชื่อมข้อมูลกล้องถ่ายภาพ CCTV ของเอกชน ทำให้มีการปรับปรุงสมาร์ทสิตี้ในองค์รวม

“กรุงเทพมหานคร จะเปลี่ยนได้ เป็นการร่วมแรงหลายข้าง ในเวลานี้มีความร่วมแรงร่วมใจจำนวนมาก ท่านนายกรัฐมนตรี ขอความปรานีให้ทหารเข้ามาช่วยเรื่องอุทกภัย พอเพียงพวกเรามีมิติของความร่วมแรงร่วมมือแล้วทุกๆอย่างเดินหน้าไปได้ ก่อนหน้านี้มีการเกี่ยงงอนกัน บางครั้งบางคราวพวกเรามองเห็นคนไร้ที่พักพิง ไม่มีผู้ใดจัดแจง เพราะว่าไม่ใช่หน้าที่ของตนเอง เป็นหน้าที่ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและก็ความยั่งยืนและมั่นคงของคนเรา (พม.) แต่ว่าถ้าหากตำรวจพบก็จะพาไปส่งที่ พม.เลย พอเพียงดำเนินการกลมกลืนแล้ว ผลตอบแทนก็ตกอยู่กับราษฎร” นายชัชชาติกล่าว
ด้าน นายฤดูใบไม้ผลิ งามอธิคม นักค้นคว้าประจำศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ) พูดว่า กรุงเทพมหานครเชื่อมโยงระบบ “ทราฟฟี้ ฟองมองว์” กับโรงพักในพื้นที่ครบทั้งยัง 88 สถานีตำรวจ เมื่อ 4 อาทิตย์ก่อนหน้านี้ โดยตำรวจรับเรื่องแล้วก็ไปจัดการกับปัญหาเอง จำนวนมากคือปัญหาด้านจราจร แล้วก็บอกเหตุอื่นๆดังเช่นว่า มีคนยิงปืน ทาง สถานีตำรวจก็ส่งข้าราชการลงพื้นที่เข้ายับยั้งเหตุในทันที ในส่วนนี้มีกลุ่ม 191 รอติดตามและก็ผสาน สถานีตำรวจต่างๆ
นักข่าวกล่าวว่า วันหลังแถลงข่าว นายชัชชาติได้แสดงความรู้สึกกังวลใจเรื่องรถตุ๊กตุ๊กหลอกนักเดินทาง โดยได้เสวนาพื้นฐานกับ พล.ตำบลท.สุรเชษฐ์ ว่าจะดำเนินงานคุ้มครองจัดการกับปัญหานี้ได้อย่างไรบ้าง